อบรมการสอนดนตรีแจ๊ส ผ่านการ เต้น เล่น ร้อง ในแบบของออร์ฟ

       วันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมอบรม การสอนดนตรีแจ๊ส ผ่านการ เต้น เล่น ร้อง ในแบบของออร์ฟ Teaching JAZZ Through play, Sing and Dance in Orff Schulwerk โดย อาจารย์ DOUG GOODKIN จริงๆ แล้วผมก็ได้ยินชื่อ Orff มาตั้งนานแล้วแต่เรียน ป.ตรี ที่ครุศาสตร์ แต่ก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไร เพราะรู้สึกในตอนนั้นว่าเป็นเรื่องอะไรที่ไกลตัว 
        แถมในชีวิตจริงก็เล่นดนตรีแจ็สไม่เป็น เต้นก็ไม่เป็น เล่นก็ไม่ค่อยเล่น แต่ร้องเพลงได้นิดหน่อย แต่พอดีว่า ผศ.วิทยา ไล้ทอง หัวหน้าภาคโทรมาชวน และที่สำคัญคือภรรยาสุดสวยอยากมาอบรม ผมก็เลยต้องมาด้วย เธอบอกว่าอยากมาศึกษาดูเผื่อจะเอาไปสอนลูก  อิอิ...... 

         การอบรมจัดขึ้นระหว่างวันจันทร์ที่ 28 ถึงวันพุธที่ 30 มีนาคม 2559 เริ่มตั้งแต่ 8.30 น. ดังนั้นผมกับภรรยาก็ต้องมาเช่าหออยู่ตามระเบียบ และจัดแจงนำลูกไปฝากไว้บ้านเด็กจุฬาฯ เพื่อให้เดินทางมาอบรมทัน 
ผมนั่งหลังสุดตลอดกลัวโดนเรียกไปเต้น
          แต่ปรากฏว่าพอนำลูกไปส่งที่บ้านเด็กจุฬาฯ ไม่ยอมรับฝากเนื่องจากคุณลูกชายเพิ่งหายป่วย ทางบ้านเด็กจึงขอดูใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าหายป่วยแล้ว เราเลยต้องพาลูกไปตรวจสุขภาพขอใบรับรองแพทย์ก่อน จากนั้นจึงกลับมาฝากไว้ได้ ซึ่งก็เสียเวลาไปเกือบครึ่งวันทำให้พลาดโอกาสไปหลายอย่าง



DOUG GOODKIN
            หลังจากที่เสร็จธุระเรื่องลูกชาย พอเข้ามาอมรมก็งงสิครับ เต้นอะไรกันไม่รู้ ดู Advance มาก แต่ก็พยายามลอกๆ ตามไป (ซึ่งผมค่อนข้างถนัดการลอกอยู่แล้ว) สิ่งที่เห็นอย่างแรกคืออาจารย์ดูมีอายุมากแล้วแต่ท่านดูใจดี และดูมีพลังมาก สอนทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น แบบไม่แสดงอาการเหนื่อย ผมนี่อึ้งไปเลย ขนาดแค่นั่งเรียนยังรู้สึกเหนื่อยสุดๆ ที่สำคัญคืออาจารย์ เก่งมากๆ สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของดนตรี JAZZ ที่ซับซ้อน ให้มันรู้สึกว่าเข้าใจง่าย ผ่านการเต้น การเล่าเรื่อง การใช้ร่างกาย การด้นสด ที่สำคัญคืออาจารย์ใช้กระบวนการเหล่านี้กับเด็กๆ เล็กๆ ของอาจารย์จริงๆ ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้ และประทับใจหลายๆ อย่าง แต่เทคนิคหนึ่งที่ คิดว่าจะทำไปทดลองใช้ในห้องเรียนดนตรีไทยของผมคือ วิธีการในการควบคุมห้องเรียนเครื่องตี ที่ปกติจะค่อนข้างวุ่นวายมาก โดยเฉพาะเวลาที่มีไม้ระนาดอยู่ในมือเด็กๆ ผมพยายามช่วยกับนิสิตฝึกสอนคิดหา วิธีควบคุมชั้นเรียนในหลายรูปแบบ  เช่น การใช้เสียง การใช้ฉิ่ง การว้ากกกก การหักคะแนน ฯลฯ ซึ่งการมาอมรมวันนี้ทำให้ได้รูปแบบใหม่คือ หากต้องการให้เด็กๆ หยุดตีระนาด ครูจะยกไม้ระนาดขึ้นบนศรีษะ และให้เด็กๆ ทุกคนยกขึ้นตาม ซึ่งมันทำให้ห้องเรียนเงียบได้อย่างรวดเร็ว (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะในห้องอมรมมีแต่ผู้ใหญ่หรือเปล่า) เดี๋ยวเทอมหน้าจะลองนำไปใช้ดูกับนักเรียนสาธิตฯ ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป


อันนี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งจากการอบรม แต่วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ ถ้ามีเวลาจะมาเขียนเล่าต่อนะครับ พอดูลูกตื่นละ ฝันดีครับทุกท่าน

          

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การรับรู้สุนทรียะในดนตรี

การเรียนการสอนแบบบูรณาการผ่านเพลงประจำชาติอาเซียน

กำเนิดเสียงดนตรี