บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2016

การเลือกครูดนตรีคนแรกของเด็กๆ

รูปภาพ
มีคนเคยถามผมว่าถ้าจะเลือกครูดนตรีคนแรกให้ลูกๆ ควรจะเลือกแบบไหน เลือกครูใจดีเด็กๆ จะได้อยากเรียนดนตรี  หรือ ต้องเลือกครูที่ดุๆ เพื่อจะได้บังคับให้เด็กฝึกซ้อม  พอดีว่าวันนี้ได้อ่านหนังสือเล่มนึงชื่อว่า A Revolutionary of approach to success Give and Take เขียนโดย Adam Grant ได้ข้อมูลที่น่าสนใจเพื่อตอบคำถามดังนี้นะครับ นักจิตวิทยาเชื่อกันมาหลายปีแล้วว่า ความสำเร็จในทุกแวดวงนั้นขึ้นอยู่กับพรสวรรค์เป็นอันดับแรกและแรงจูงใจเป็นอันดับที่สอง การปลุกปั้นนักดนนตรีระดับโลกผู้เชี่ยวชาญจะมองหาคนที่มีความสามารถตั้งแต่เกิดจากนั้นก็ค่อยๆ หาวิธีสร้างแรงจูงใจให้พวกเขา ถ้าคุณอยากให้คนที่เล่นเปียโนเก่งเหมือนวิตฟิลด์ก็เป็นธรรมดาที่คุณจะเฟ้นหาคนที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีแต่ในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ นักจิตวิทยาเริ่มสังเกตุเห็นว่าแนวทางดังกล่าวอาจไม่ได้ผลอย่างที่เราคิดกัน ในช่วงทศวรรษที่ 1960 นักจิตวิทยารุ่นบุกเบิกอย่างเรย์มอนด์ แคตเทลล์ ได้คิดค้นทฤษฎีที่ว่าด้วยการลงทุนทางสติปัญญาเขาอธิบายว่าความสนใจคือสิ่งที่ผลักดันให้คนเราทุ่มเทเวลาและพลังไปกับการพัฒนาทักษะและความรู้บางอย่าง ทุกวันนี้มีหลักฐานท...

วิธีการใช้เสียงกับเด็กๆ

รูปภาพ
  ปกติเวลาเราพูดกับเด็กๆ เราใช้เสียงพูดแบบไหนกันคะ ระหว่างเสียงพูดระดับปกติ หรือพูดโดยใช้เสียงสูงๆ???? คุณ Taggart และคุณ Gouzouasis (1995) อธิบายว่า การที่คุณแม่พูดคุยกับลูกด้วยการทำเสียงสูงๆ(high pitch) ช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ และซ้ำไปซ้ำมา เป็นการพูดที่เรียกว่า “Motherese” การพูดแบบนี้ดีนะคะ เพราะช่วยในเรื่องพัฒนาการทางการพูดของลูกได้มากกว่าการพูดโดยใช้นำ้เสียงแบบธรรมดาทั่วไป โดยเฉพาะในเด็กอายุระหว่าง 12 เดือนถึง 5 ขวบ เพราะฉะนั้นเวลาพูดกับเด็ก ไม่ต้องอายที่จะทำเสียงสูงๆ ตลกๆบ้าง ลองทำดูนะคะ ^^  และเมื่อคุณแม่พูดกับลูกด้วยเสียงสูงๆแล้ว ลูกก็จะมีการตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยินค่ะ โดยก่อนที่ลูกจะพูดได้ จะเริ่มมีการออกเสียงลักษณะอ้อแอ้ก่อนที่จะเป็นคำพูด  คุณ Moog (1976) แบ่งความแตกต่างของการอ้อแอ้ (Babbling) ออกเป็น 2 แบบคือ อ้อแอ้ทั่วไปก่อนที่จะพูดเป็นคำ กับอ้อแอ้แบบมีโทนเสียง (Tonal babbling) การอ้อแอ้แบบมีโทนเสียง (Tonal babbling) ลักษณะจะเป็นอ้อแอ้เสียงสูง (high pitch) และออกเสียงเพียงสระเดียว หรือสองสามสระเท่านั้น จะเกิดขึ้นเมื...